บทสัมภาษณ์ คุณสัมพันธ์ สุภาภัคดี

บทสัมภาษณ์ คุณสัมพันธ์ สุภาภัคดี

ความอุสาหะ และ ความมุ่งมั่นมีบทบาทความสำคัญในการที่ช่วยให้ คุณสัมพันธ์ สุภาภัคดี ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี ตั้งตัวเพื่อความสำเร็จ ในวัย 49 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจที่เกิดกรุงเทพฯ กำลังดำรงตำแหน่งเป็นครั้งที่สอง ในจังวหัดอุทัยธานี หลังจากหยุดไปหนึ่งปีเมื่อห้าปีที่แล้ว

เมืองอุทัยธานี เป็นสถานที่ ที่พิเศษที่อยู่ในใจผม เพราะว่าผมดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ สำนักงานอุทัยธานี เป็นครั้งแรกที่นี้ ถึงแม้ผมจะต้องย้ายกลับกรุงเทพฯหลังจากดำรงตำแหน่งเพียงแค่ 1 ปี เพื่อไปเป็นหัวหน้าแผนกอื่น ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานการท่องเที่ยวอุทัยธานี กล่าว

" การกลับมาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ ผมมีไอเดียและโปรเจคใหม่ๆมากมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อ ทำให้จังหวัดอุทัยธานีอยู่ในแผนที่ท่องเที่ยวต่อๆไป และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมากๆ

" การก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานจังหวัดอุทัยธานี ของ สัมพันธ์ สุภาภัคดี เป็นข้อพิสูตร ถ้าเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า ที่ไหนมีเจตจำนง ที่นั้นมีหนทาง

เขาเป็นลูกคนที่สามในสี่ของคุณพ่อที่ทำอาชีพช่างไม้และคุณแม่ทำอาชีพภารโรงในโรงพยาบาล เขาเกิดในครอบครัวที่เขาตระหนักตั้งแต่อายุยังน้อยที่ว่าถ้าเขาประสบความสำเร็จในชีวิต เขาจะต้องมุ่งมั่นและทุ่มเท และพยายามมากกว่าคนอื่น

" ผมไม่อาย ที่จะบอกว่าผมมาจากครอบครัวที่ยากจน ที่มีเพียงสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต สัมพันธ์ กล่าว

" แม้เราจะมีน้อยนิด แต่พ่อแม่ก็สอนให้เราเป็นคนขยันและซื่อสัตว์ พ่อของผมเสียชีวิตไปตั้งแต่ผมอายุ18 ปี คุณพ่อได้สอนลูกชายทั้ง 3 คน ให้รู้จักความหมายของความเพียร ท่านสอนไห้เราละเว้นจากสุราและการทะเลาะวิวาท โดยเพราะอย่างยิ่ง เมื่อผมเริ่มเรียนสายอาชีพ เพื่อความหวังว่าอยากจะเป็นช่าง

สัมพันธ์ เริ่มหารายได้ด้วยการเป็นช่างล้างแอร์ หลังจากพ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เขารู้ว่าความฝันที่จะศึกษาต่อได้มีอุปสรรค์ แต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาทำไห้เขามุ่งมั่น ที่จะทำไห้ดีที่สุดในทุกที่ ที่เขาพบตัวเอง

" การเสียชีวิตของคุณพ่อเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมอย่างมาก การไม่มรพ่อเป็นเรื่องที่ยาก แต่ผมก็ไม่หลงระเริงกับตัวเอง

" เมื่อเพื่อนร่วมห้องกว่าครึ่งสมัครเข้าเรียนต่อ ผมเริ่มทำงานที่บริษัทล้างแอร์ ผมได้รับเงินเดือน 9,000 บาท ซึ่งสามารถจุนเจือครอบครัวได้ไม่มากก็น้อย ผมทำงานที่นั้นเกือบปี

สัมพันธ์ ได้บอกเราว่าหากมีสิ่งหนึ่งทีเขาได้เรียนรู้จากแม่ นั้นคือ การทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียร ดังนั้น เป็นเวลา 11 เดือนที่เขาได้ทุ่มเทเขาอุทิศทั้งแรงกายและแรงใจให้กับงานที่สั่งสอนไห้เขาได้เรียนรู้ ดูแล ซ่อมบำรุง เครื่องปรับอากาศให้อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม

" ผมเป็นช่างเครื่องที่ได้รับการรับรองด้วยปะสบการณ์ในการทำงาน ทำไห้ผมเป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อร่วมงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นอาชีพที่ตรากตรำ และในไม่ช้าผมตระหนักว่าผมต้องเปลี่ยนงานไปอยู่ที่ดีกว่านี้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมาพร้อมกับผลประโยชน์ทางสังคม

" ระหว่างที่อ่านดูตำแหน่งงานว่าง ผมบังเอิญไปเจอ เปิดรับสมัครช่างไฟฟ้า ที่ ททท สำนักงานใหญ่ ในใจของผมได้คิดว่านั้นเป็นโอกาสให้ผมได้ไปท่องเที่ยวจังหวัดที่เขาต้อนรับเรา

" ผมอายุ 21 ปี เมื่อเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้วยเงินเดือน 6,440 บาท ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมามีส่วนอย่างมากในการได้รับคัดเลือกจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจนี้

สัมพันธ์ได้ทำงานในรัฐวิสาหกิจนี้อย่างขยันขันแข็ง ค่อยๆเลื่อนตำเหน่งไปพร้อมกับคำชมจากรุ่นพี่ที่ ททท เขาทำงานเป็นช่างไฟฟ้าเป็นเวลา13  ปี  ในที่สุดก็ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าแผนก

ในช่วงเวลานี้เอง เขาได้ตัดสินใจศึกษาต่อโดยการกู้เงินจากสหกรณ์ จนเรียนจนจบปริญญาตรี และเขาตัดสินใจเลือกที่จะเรียน คณะวิศวกรรม

" ค่าเล่าเรียนของคณะวิศวกรรมสูงมากผมไม่มีเงินพอ อาจารย์จึงแนะนำไห้ฉันไปเรียนบริหารธุรกิจแทน ผมก็ยินดีที่จะเรียนบริหารธุรกิจ ผมจึงได้มาถึงจุดสูงสุดของอาชีพช่างไฟฟ้าแล้วจากประสบการณ์ ดังนั้นการเรียนรู้ทำอะไรใหม่ๆๆจึงรู้สึกว่าผมได้มาถูกทางแล้ว

สัมพันธ์เรียนภาคค่ำจนจบปริญญาตรีภายใน2ปี ตามคำแนะนำของพี่ชาย ซึ่งพี่ชายทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทไทยออย เขาจึงตัดสินใจที่จะกู้เงินอีกครั้งเพื่อเรียนต่อปริญญาโท พี่ชายของผมทำงานในบ่อน้ำมันในช่วงวัยรุ่นตอนปลายเขาจึงส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัย จึงได้รับปริญญา และในที่สุดก็ได้เป็นผู้จัดการ การอุทิศตนที่เป็นแบบอย่างของเขามีบทบาทอย่างมากในความปรารถนาและมีแรงบันดาลใจ ผมจึงตัดสินใจที่จะศึกษาต่อ " 

ผอ ททท. เรียนปริญญาโทอีกครั้ง เขาได้ทักษะมากมายในการบริหารงานบุคคลและสถานการณ์ และเขาควบ 2 ปริญญาตอนอายุ 31 ปี ตอนนี้เขาพร้อมที่จะสอบในหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจเพื่อเลื่อนตำแหน่ง

หลังจากการทำงานเป็นช่างไฟฟ้ามา 13 ปี เขาได้ย้ายไปแผนกจัดหาและจัดซื้อ ในที่สุดเขาก็ได้เป็นหัวหน้าแผนก ก่อนที่จะแสดงความสนใจที่จะก้าวกระโดดด้วยศรัทธาในการชิงตำแหน่ง ผู้อำนวยการททท สำนักงานจังหวัด สัมพันธ์อถิบายว่า พนักงานระดับบริหาร เห็นว่าผมมีศักยภาพจึงสนับสนุนผมมาตลอดการทำงานที่ ททท

" ปรัชญาของผมคือ ทำไห้ดีที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ผมเชื่อในการเผ็นตัวเอง ไม่อวดตัวว่ารู้มากกว่าคนอื่นเพราะผมฟังมากกว่าพูด

ต้องก้าวไปข้างหน้า