อุทัยธานี เมืองแห่งขุนเขา สายน้ำ ที่แสนโรแมนติก
อุทัยธานี เมืองแห่งขุนเขา สายน้ำ ที่แสนโรแมนติก
การมาท่องเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี ครั้งนี้ ทางทีมงานคิดว่าน่าจะนำเสนอเมืองที่ใกล้กรุงเทพ เดินทางสบาย ไม่ไกลมากนัก ไม่เหนี่ยวล้าเกินไปกับการเดินทาง และคุ้มค่า และอยากจะมาเห็นกับตาว่า เมืองอุทัย มีอะไร และอยากมาเห็นว่าเมืองนี้ มีอะไรแตกต่างกับเมืองอื่น หรืออย่างไร แต่ที่ทราบกันดีว่า เมืองนี้ มีแม่น้ำสะแกกรัง พาดผ่าน และน่าจะใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 2 คืน 3 วัน
อุทัยธานี มีแม่น้ำสะแกกรัง เป็นหัวใจหลักในการดำเนินวิถีชีวิต ตั้งอยู่ภาคกลาง มีขนาดพื้นที่ประมาณ 6,730 ตารางกิโลเมตร มีอำเภอทั้งหมด 8 อำเภอ อำเภอทัพทัน อำเภอบ้านไร่ อำเภอลานสัก อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอหนองขาหย่าง อำเภอหนองฉาง และอำเภอห้วยคต
สภาพภูมิศาสตร์ ยังอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีภูเขาสูงชัน มีป่าไม้ มีธรรมชาติที่สวยงาม และมีอากาศที่เหมาะสมไม่ร้อนเกินไป เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
โดยมีผู้เปรียบเปรยไว้ว่า เมืองอุทัยธานี เป็นเมือง 3 ธรรม คือ 1 ธรรมมะ 2 ธรรมชาติ 2 วัฒนธรรม ซึ่งไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึง3 ธรรม ถ้าไม่มา หรือมาให้เห็นกับสายตาตัวเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่า อุทัยธานี เมืองเล็กๆ ที่ไกลกรุงเทพ เช่นนี้ มีอะไรที่หลากหลาย เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
- ธรรมมะ มี หลวงพ่อฤษีลิงดำ เกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำสะแกกรังที่พุทธสาสนิกชนศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก และมีวัดวาอารามที่เก่าแก่ ควรค่าแก่การอนุรักษ์รักษา
- ธรรมชาติ มีธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีเขตรักษาพันธ์สัตร์ป่าที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ตั้งอยู่
- วัฒนธรรม มี วัฒนธรรมที่หลากหลาย มีชนเผ่าที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานมาอยู่อุทัยธานี หลากหลายชนเผ่า ทำไห้อุทัยธานี มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย สืบทอดขนมธรรมเนียมประเพณี จากรุ่นสู่รุ่น
ที่สำคัญ อีกหนึ่งอย่าง ที่ขอเพิ่มเติม คือ มนต์เสน่ห์ของอาหารที่หลากหลายที่มีให้เลือกมากมายที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาดัดแปลงทำเป็นอาหาร เมนูต่าง เช่น เมนูปลาน้ำจืดที่ลือชื่อเป็นอย่างมาก เพราะมีแม่น้ำไหลผ่าน ชาวบ้านจึงนำปลาน้ำจืดมาดัดแปลงเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นปลาตากแห้ง น้ำพริก นอกจากเมนูอาหารที่รังสรรค์ เช่นปลาน้ำจืดแล้ว ยังมีอาหารท้องถิ่นมากมาย มีผลไม้ให้เลือกสรรตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน มะยงชิด สับปะรด เป็นต้น
วันที่ 1 ออกเดินทาง จากกรุงเทพ ฯ เมืองที่แสนจะวุ่นวาย
ขอไปเติมไฟซะหน่อย ไปใช้ชีวิตแบบ Slow Life เติมพลังให้กับชีวิตบ้าง เราออกเดินทาง จากกรุงเทพ เมืองฟ้าอมร มุ่งหน้าสู่ เมืองอุทัยธานี โดยใช้เวลาเดินทาง ประมาณไม่เกิน3 ชั่วโมง ความจริงในใจผู้เขียนคิดว่า คงใช้เวลามากกว่านั้น เพราะในใจคิดว่าติดกับนครสวรรค์ คงจะใช้เวลาที่มากกว่า แต่ที่จริงนั้นไม่ใช่เลย ไม่เกิน 3 ชั่วโมงเท่านั้น เห็นป้ายบอกทาง อุทัยธานีเตรียมชิดซ้ายเข้าเมือง ขับตามทาง สะดวกสบาย จนเลี้ยวซ้ายเข้าเมืองอุทัยธานี ความแปลกใจก็เริ่มปรากฏในความคิดออกมา
หนทางนำเราไปสู่เมืองอุทัย สองฝั่งทาง เขียวขจี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทำนา โล่ง กว้างไกล สุดลูกหูลูกตา สบายจิต สบายใจ ยิ่งนัก มาสักพักหนึ่งเห็นภูเขาไม่สูงมากนัก ตั้งตระหง่านต้อนรับผู้คนที่มาท่องเที่ยว มองไป ตรงกลาง จะเห็นคำว่า เมืองพระชนกจักรี สูงเด่นเป็นสง่า
ขึ้นเขาสะแกกรัง เที่ยวชมมณฑปแปดเหลี่ยม ภายในประดิษฐ์สถานพุทธบาทจำลอง ระฆัง 100 ปี หน้ามณฑป พระราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกแห่งรัชกาลที่ 1 และชมเมืองอุทัยในมุมสูง
เขตพุทธาวาส วัดสังกัสรัตนคีรี ประดิษฐานอยู่บนเขาสะแกกรัง
เป็นวัดเก่าแก่ ประจำจังหวัดอุทัยธานี บริเวณวัดมี 2 พื้นที่ คือด้านล่าง และด้านบนยอดเขา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของพุทธสนิกชนทั่วไป ในเรื่องประเพณีตักบาตรเทโว ภายในวัดยังมีพระพุทธคู่บ้านคู่เมือง พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์
ที่อยู่ เขาสะแกกรัง ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
เปิดให้ชม : 6.00น-20.00น
วัดท่าซุงเที่ยวชมความสวยงามของวิหารแก้ว 100 เมตร กราบบูชาสรีรังคาร พระสุธรรม ยานเถระ (หลวงพ่อฤษีลิงดำ) ชมปราสาททองกาญจนาภิเษก และศาสนสถานอื่นๆภายในวัด
หรือวัดจันทาราม เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเมืองอุทัยธานี เป็นที่เลื่องชื่อในด้านความงดงาม ด้วยเอกลักษณ์อันโดนเด่น วิหารแก้ว 100 เมตร ที่ตกแต่งด้วยแก้วทั้งวิหาร ภายในวิหารแก้วนี้ มีโลงบรรจุองค์หลวงพ่อฤษีลิงดำ ซึ่งชาวอุทัยธานีเคารพนับถือกันอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปจำลองพระพุทธชินราชซึ่งเป็นพระประทานอยู่ภายในวิหาร
ที่อยู่ ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
วิหารแก้วช่วงเวลาที่สามารถเข้าชมได้ ตอนเช้า 9.00น-11.00น/ตอนบ่าย 14.00น-16.00น
วัดอุโบสถาราม (วัดโบทสถ์) เที่ยวชมภาพจิตกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ รวมถึงเจดีย์สารทองค์ สามสมัย สามแบบ พระวิหาร มณฑปแปดเหลี่ยม พระพุทธบาทจำลอง สมัยรัชกาลที่ 4 และแพโบสถ์น้ำ
เป็นวัดเก่าแก่ในเมืองอุทัยธานี ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำสะแกกรัง ที่นี้มีไฮไลท์ สถาปัตยกรรมรูปทรงสวยงามตัวอุโบสถ พบเจดีย์เรียงกัน 3 องค์ ทั้งสมันสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ตั้งอยู่ และมณฑปแปดเหลี่ยมศิลปะผสมไทย จีน ที่งดงาม นอกจากนั้นยังมีจิตกรรมฝาผนัง ที่มีฝีมือระดับช่างหลวง
ที่อยู่ ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
ลงเรือ ท่าเรือวัดโบสถ์ ล่องเรือชมวิถีชาวแพสะแกกรัง เยี่ยมชม การเลี้ยงปลาในกระชัง การทำปลาย่าง ปลารมควัน
สัมผัสบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง ได้ความรู้สึกเวลากระแสลมพัดเข้าหน้า กับ กลิ่นอายของแม่น้ำ พร้อมทั้งเห็นวิถีชีวิตชาวบ้าน เรือนแพ ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ทำไห้มีความสุข สดชื่น เป็นอย่างมาก เราล่องเรือผ่าน เห็นวิถีชีวิตริมแพของชาวบ้าน บางหลังอยู่มานานเป็นร้อยปี ออ ขอบอกว่า เรือนแพนี้ มีบ้านเลขที่ด้วยนะ รูปทรง บางหลังก็ดูทันสมัย บางหลังก็เก่าแก่ ควรค่ากับการอนุรักษ์ ส่วนไฟฟ้าชาวแพเขาใช้อะไร ขอบอกว่า สามารถใช้ไฟฟ้ากับการไฟฟ้าได้เลย คือต่อสายมีมิเตอร์ เสร็จสัพเรียบร้อย สบายมาก
ออ พอดีเรานั่งเรือไปสักพัก ฝนตกพอดีทำไห้เปียกปอนนิดหน่อย แต่ พี่คนขับเรือ พาเราแวะพักเรือนแพหลังหนึ่ง เจอคุณยายใจดี ให้เรานั่งพักหลบฝน ทำไห้เราได้สัมผัสอยู่แพแบบจริงๆ ขอบอกมีความสุขมากๆ
ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง เลือกซื้ออาหารคาว หวาน เพื่อเตรียมใสบาตรทางน้ำ ณ แม่น้ำสะแกกรัง และเก็บบรรยากาศตลาดเช้า
ขอบอกว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งนะที่ต้องทำ เช้าของทุกวันชาวเมืองอุทัยธานี มาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อกับข้าว อาหารการกิน มีพระมาบิณบาตร นักท่องเที่ยวก็มาใส่บาตรถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องทำ และต้องตื่นเช้า 6 โมงเช้า ผู้คนก็มากันแล้ว
ส่วนแม่ค้า ก็จะมีของพื้นบ้าน ผัก ผลไม้ ขนม ปลาน้ำจืด ขบอกว่าราคามิตรภาพมากๆ
อีกเรื่องในอำเภอเมืองไม่มีห้างสรรพสินค้า เลยนะ เขายังคงใช้ชีวิตแบบชาวบ้านกันอย่างแท้ๆ ไม่มีทุนใหญ่มาดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้า ใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ จริงๆ ถึงแม่ในเมืองอุทัยธานีก็เถอะ
หุบป่าตาด อ.ลานสัก
หุบป่าตาด แรกๆ พระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เป็นผู้พบเจอและในปี 2527 พระครูสันติธรรมโกศล ได้เริ่มการเจาะถ้ำหุบป่าตากโดยการเจาะนั้น เป็นไปด้วยความลำบากต้องอาศัยพระเณร แม่ชี ชาวบ้านถ้ำทองและใกล้เคียงมาช่วยกันเจาะจนในที่สุดก็สำเร็จเป็นทางเข้าหุบป่าตากในปัจจุบัน ตอนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช
หุบป่าตาก เป็นชื่อป่าดึกดำบรรพ์ อยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ประทุน มีเนื้อที่ 4 ไร่ เคยเป็นถ้ำหินปูนมาก่อน ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของธรณีวิทยาทำไห้หลังคาถ้ำพังถล่มลงมา กลายเป็นหลุมยุบหรือหุบในปัจจุบัน พบต้นไม้ป่าดึกดำบรรพ์ขึ้นอยู่หลายชนิด เช่น ต้นตาด สมพง ยมหิน ปอหูช้าง ปรง และกล้วยผา
กิ้งกือมังกรสีชมพู มีสีชมพู มีลวดลายและป่องหนามคล้ายมังกร จัดอยู่ในวงศ์ของกิ้งกือมังกร เมื่อโตเต็มวัยยาว 7 ซม.มีปล้องยาว 20-40 ปล้อง เป็นสัตว์ประเภทขับสารพิษไซยาไนด์เพื่อป้องกันตัวเองได้ พบในระหว่างเดือน กรกฎาคม-พฤศจิกายน ทุกปี
ที่อยู่ หุบป่าตาด อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
เก็บภาพวิวภูเขา ณ จุดชมวิวบ้านชายเขา สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย
วิว ทัวทัศน์ ช่างสวยงามอลังการขนาดนี้ นี้สิ อุทัย ตอนแรกเสียงลือบอกว่าสวิสเซอร์แลนด์ เมืองไทย เราก็เฉยๆว่าจะไปเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ได้อย่างไร ขำ
แต่พอมาเข้าเขตบ้านชายเขา สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ตอบได้คำเดียว ไช่เลย สวยงามอลังการ งานสร้างมากๆ มีทิวเขาทอดยาว มีทุ้งหญ้าเขียวขจี และมีดอกไม้เมืองร้อน สมกับคำร่ำลือจริงๆ ที่สำคัญสามารถมากางเต็นท์กินบรรยากาศได้นะ นอนดูดาว สัมผัสธรรมชาติ สายลมแผ่วๆ ช่างโรแมนติกก เหลือเกิน
ที่อยู่ บ้านชายเขา ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ อ.บ้านไร่ อีกหนึ่งจุดเช็คอินของอุทัยธานี
เป็นฝายกั้นน้ำในชุมชน โดยเป็นฝายปูนขนาดเล็กมีรูปทรงแปลกตา น้ำที่ล้นเหนือฝายปูนจำไหลลงมากลายเป็นม่านน้ำขนาดย่อมไหลลงมาเป็นน้ำตกเล็กๆ
ที่อยู่ ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
วัดผาทั่ง อ.บ้านไร่ เก็บภาพหลวงพ่อโต องค์ใหญ่
วัดเก่าแก่ที่มี หลวงพ่อโต พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีความสวยงาม ประดิษฐานไว้อย่างโดดเด่น สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เป็นที่นับถือบูชาของชาวบ้านในจังหวัดอุทัยธานี เชื่อกันว่าหลวงพ่อโตนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์
ที่อยู่ 81 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุมัยธานี
ศูนย์ทอผ้าโบราณบ้านผาทั้ง ชมความสวยงามของผ้าฝ่ายทอใหม่ ผ้าตีนจก ลวดลายต่างๆ พร้อมชมการสาธิต กระบวนการต่างๆ ก่อนที่จะเป็นเส้นด้ายที่ใช้ในการทอ
อุทัยธานี มีชื่อเสียงในการทอผ้าฝ้าย ผ้าไหม เป็นการรวบรวมผ้าทอโบราณฝีมือชาวบ้านไร่ ซึ่งเป็นการสืบทอดฝีมือการทอผ้ามาอย่างยาวนาน ถึง 200 ถึง 300 ปี ของชาวลาวครั่ง และลาวเวียงที่อพยพมาจากประเทศลาวคนพื้นเมืองชาติพันธ์ต่างๆของจังหวัดอุทัยธานี เป็นผืนผ้าที่งดงามจนได้รางวัลชนะเลิศจากยูเนสโก (UNESCO) ปี 2547 ที่ทรงคุณค่า
ที่อยู่ 32 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
วัดเขาวง ชมความสวยงามของอาคารไม้สัก ที่ตั้งอยู่หน้าภูเขา
เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านภายใต้หุบเขา ศาลาวัดจะทำด้วยไม้ทั้งหลังเป็นทรงไทยโบราณ 4 ชั้น แวดล้อมด้วยธรรมชาติต้นไม้ในหุบเขา และมีสะพานไม้ ทอดยาวข้ามสระน้ำที่สวยงามเป็นจุดถ่ายรูป นอกจากนั้นยังมีถ้ำหลังเขา ชมวิว และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
ที่อยู่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ
ต้นไม่ยักษ์ หรือต้นเชียงยักษ์ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุหลายร้อยปี มีขนาดใหญ่สูงถึง 53 เมตร โดยความกว้างนั้นต้องใช้คนโอบล้อมถึง 40 คน เป็นสถานที่สำคัญในหมู่บ้าน และได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คสถานที่ถ่ายรูปสุดชิค ด้วยความยิ่งใหญ่ของต้นไม้ ที่มีความแข็งแรง แผ่ลำต้นที่กว้างใหญ่ทำให้แปลกตายิ่งนัก
ที่อยู่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
วัดเขาถ้ำประทุน อ.บ้านไร่ ชมความสวยงามของโบสถ์ที่ทำจากรากไม้ และไม้แกะสลักทั้งหมด รวมถึงสักการะพระนอนเกาะสลักจากไม้ตะเคียนขนาดใหญ่
มีพระอุโบสถรากไม้ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถือเป็นงานไม้ที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยใช้รากไม้ตระเคียนทอง ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ รากไม้กันเกรา มาตบแต่ง แกะสลักพระพุทธประวัติสวยงาม
ที่อยู่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
และแล้ว ก็ถึงวันที่ต้องกลับ เราใช้เวลามาพักผ่อน 3 วัน 2 คืน เวลามันช่างผ่านไปเร็วมาก เราอยากอยู่ที่นี้ต่อ แต่ด้วยภาระที่มี จำใจที่ต้องกลับ คงหวนคิดถึงจังหวัดอุทัยธานี รวมถึงผู้คนที่มีจิตใจที่น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ในใจก็คิดว่า เราจะต้องกลับมาอีกให้ได้ เพราะว่าอยู่ใกล้กกกรุงเทพไม่เท่าไหร่ แต่ได้สัมผัสถึงความเป็นอุทัยที่ไม่เหมือนใคร สามารถใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ช้าๆ แต่ได้อาหาบำรุงร่างกายให้เฟรสขึ้นมาได้ แถมใช้เวลาเดินทางไม่นาน อยู่ใกล้กรุงเทพ แค่นิดเดียว สมแล้วกับคำล้ำลือจริงๆว่า "อุทัยธานี เมืองแห่ง ขุนเขาและสายน้ำที่แสนโรแมนติก"
ขอขอบคุณ
- นายสัมพันธ์ สุภาภัคดี ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานอุทัยธานี ที่อำนวยความสะดวกให้ทีมงานได้ถ่ายทำ และเอื้อเฟื้อข้อมูลต่างๆ
- นายนิมิตร บูรพา ททท. สำนักงานอุทัยธานี